ย้อนไปวันที่ 28 สิงหาคม 2011 ถือเป็นวันที่อาร์เซน่อล พบกับความพ่ายแพ้ที่ย่อยยับที่สุด ในยุคที่ อาร์แซน เวนเกอร์ คุมทีม

ย้อนไปวันที่ 28 สิงหาคม 2011 ถือเป็นวันที่อาร์เซน่อล พบกับความพ่ายแพ้ที่ย่อยยับที่สุด ในยุคที่ อาร์แซน เวนเกอร์ คุมทีม

ความพ่ายแพ้ที่ย่อยยับที่สุด ในยุคที่ อาร์แซน เวนเกอร์ คุมทีม

blog

จำนวนเข้าชม 1198 ครั้ง

4 ปีที่แล้ว

ย้อนไปวันที่ 28 สิงหาคม 2011 ถือเป็นวันที่อาร์เซน่อล พบกับความพ่ายแพ้ที่ย่อยยับที่สุด ในยุคที่ อาร์แซน เวนเกอร์ คุมทีม


และจนถึงทุกวันนี้ เกมที่โดน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ถล่มยับ 8-2 ยังคงเป็นเกมเดียวที่ทีมปืนใหญ่เสียถึง 8 ประตู ตั้งแต่ลงเล่นในพรีเมียร์ลีก


จากการที่ครบรอบ 8 ปีพอดี ของแมตช์สะเทือนวงการนัดดังกล่าว เราขอสรุปเหตุการณ์จากนัดนั้น 8 ข้อ เพื่อให้แฟนบอลจดจำได้ว่า มันมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง

______________________________


1. ทีมปืนใหญ่ชุดพิการ


การบุกเยือน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คือเกมลีกนัดที่ 3 ของฤดูกาล 2011-12 โดยสภาพความพร้อมของทั้ง 2 ทีมต่างกันสุดขั้ว


แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ตุน 6 คะแนนเต็มจากการชนะทั้ง เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน และ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ผิดกับ อาร์เซน่อล ที่ยังยิงไม่ได้สักประตู เมื่อบุกเสมอ นิวคาสเซิ่ล 0-0 และแพ้ ลิเวอร์พูล คาบ้าน 0-2


ทีมปีศาจแดงยังได้เปรียบจากการที่ได้ลงเล่นในบ้านเป็นนัดที่ 2 ติดต่อกัน และได้พักมาเต็มๆ เกือบ 1 สัปดาห์ ผิดกับทัพปืนโต ที่เพิ่งบอบช้ำจากการบุกไปทำศึกหนักกับ อูดิเนเซ่ ที่อิตาลี ในเกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบเพลย์ออฟ


ช่วงซัมเมอร์ 2011 อาร์เซน่อล เสียกัปตันทีมอย่าง เชส ฟาเบรกาส ที่เลือกย้ายกลับ บาร์เซโลน่า ขณะที่ 2 แข้งฝรั่งเศสอย่าง กาแอล กลิชี่ และ ซามีร์ นาสรี่ ก็ต่างชิ่งไปอยู่กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทั้งคู่


นักเตะตัวสำคัญในแผงหลังอย่าง บาการี่ ซาญ่า และ โธมัส แฟร์มาเล่น มีอาการบาดเจ็บ ไม่พร้อมลงเล่นที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ซึ่งตอนนั้นสโมสรก็ได้ขาย เอ็มมานูเอล เอบูเอ้ ไปให้ กาลาตาซาราย แล้วด้วย


นักเตะอย่าง คาร์ล เจนกินสัน และ โยฮัน ฌูรู จึงต้องลงตัวจริง รวมไปถึง อาร์กม็องด์ ตราโอเร่ แบ็กซ้ายดาวรุ่งชาวฝรั่งเศส ที่เพิ่งกลับจากการไปเล่นให้ ยูเวนตุส แบบยืมตัว


เอ็มมานูเอล ฟริมปง กองกลางดาวรุ่งโดนแบนจากการโดนไล่ออกนัดที่แพ้ ลิเวอร์พูล คาบ้าน 0-2 ทำให้ ฟร็องซิส โกเกอแล็ง ได้ลงสนามให้ทีมชุดใหญ่ของอาร์เซน่อลเป็นนัดแรก


ในแนวรุกก็มีปัญหา เมื่อ แชร์วินโญ่ ปีกตัวใหม่ทีมชาติไอวอรี่โคสต์ ก็ยังติดโทษแบนอีกคน จากการโดนใบแดงโดยตรงในเกมนัดเปิดฤดูกาลที่บุกไปเสมอ นิวคาสเซิ่ล 0-0


อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน ปีกดาวรุ่งวัยทีนเอจ ซึ่งตอนนั้นเพิ่งย้ายมาจาก เซาธ์แฮมป์ตัน จึงได้โอกาสลงสนามให้ อาร์เซน่อล เป็นนัดแรก โดยลงเป็นตัวสำรองแทน ฟร็องซิส โกเกอแล็ง ในนาที 62

______________________________


2. ผีแดงชุดพลังหนุ่ม


ถึงแม้ อาร์เซน่อล จะดูไม่พร้อม แต่ทางฝั่ง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ก็ใช่ว่าจะฟูลทีม


ผู้รักษาประตูคือ ดาบิด เด เคอา ที่เพิ่งย้ายมาอังกฤษปีแรก แทนที่ เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ ที่แขวนถุงมือไปแล้ว


เนมานย่า วิดิช, อันโตนิโอ วาเลนเซีย, ราฟาเอล ดา ซิลวา และ ไมเคิ่ล คาร์ริค ยังต้องพักยาว ริโอ เฟอร์ดินานด์ ก็ยังไม่ฟิตเต็มร้อย ขณะที่ตอนนั้น พอล สโคลส์ ยังอยู่ระหว่างแขวนสตั๊ดรอบแรก


คู่เซนเตอร์ของผีแดงต้องใช้งาน ฟิล โจนส์ จับคู่กับ จอนนี่ อีแวนส์ ส่วน คริส สมอลลิ่ง โยกไปยืนแบ็กขวา


ส่วนคู่มิดฟิลด์ตัวกลางเน้นความสด ด้วยการใช้ ทอม เคลฟเวอร์ลี่ย์ จับคู่กับ อันแดร์สัน ขณะที่หัวหอกเป็น แดนนี่ เวลเบ็ค ประสานงานกับ เวย์น รูนี่ย์


หลายคนอาจไม่รู้ว่า อายุเฉลี่ยของ 11 ตัวจริง แมนฯ ยูไนเต็ด ในเกมนั้น ยังน้อยกว่า อาร์เซน่อล ชุดพิการด้วยซ้ำ โดยทีมปีศาจแดงชุดนั้น อายุเฉลี่ยอยู่ที่ 23 ปี 1 เดือน ส่วนทีมปืนใหญ่ 23 ปี 6 เดือน

______________________________


3. เด เคอา เซฟจุดโทษครั้งแรก


การพบกับ อาร์เซน่อล ถือเป็นครั้งแรกที่ ดาบิด เด เคอา ต้องเผชิญหน้ากับลูกจุดโทษในฐานะผู้รักษาประตูของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด


หลังจากทีมปีศาจแดงขึ้นนำ 1-0 จากประตูของ แดนนี่ เวลเบ็ค ได้เพียง 5 นาที อาร์เซน่อล มีโอกาสที่จะตีเสมอได้ทันควัน เมื่อ จอนนี่ อีแวนส์ ไปดึง ธีโอ วัลค็อตต์ ล้มในเขตโทษ แต่ว่า โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ซึ่งรับบทกองหน้ากัปตันทีม กลับซัดไปติดเซฟของ เด เคอา


นั่นถือเป็นการเซฟเพียง 1 จากทั้งหมด 2 ครั้งที่ เด เคอา เคยป้องกันลูกจุดโทษได้ในพรีเมียร์ลีก


โดยนอกจาก ฟาน เพอร์ซี่ แล้ว อีกคนที่เคยยิงจุดโทษไปโดน เด เคอา เซฟได้ มีเพียง เลห์ตัน เบนส์ แบ็กซ้ายของเอฟเวอร์ตันเมื่อปี 2014 เท่านั้น

______________________________


4. เสี่ยหมู แฮตทริกลูกนิ่ง


เวย์น รูนี่ย์ ทำแฮตทริกในเกมนี้ จากการยิงฟรีคิก 2 ลูก และจุดโทษอีก 1 ครั้ง


ช่วงต้นฤดูกาล 2011-12 ถือว่า รูนี่ย์ ท็อปฟอร์มสุดๆ เพราะซัดประตูได้ตลอด 5 นัดแรกที่ทีมชนะรวด


โดยหลังจากเหมา 3 ลูกใส่ อาร์เซน่อล ก็ทำแฮตทริกได้ต่อเนื่อง ในเกมนัดถัดมาที่บุกถล่ม โบลตัน วันเดอเรอร์ส 5-0

______________________________


5. เจนกินสัน โดนแดง


หนึ่งในปัจจัยที่ทำให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ยิงได้มากถึง 8 ประตู ก็คือการที่ อาร์เซน่อล เหลือผู้เล่นแค่ 10 คน ตอนที่สกอร์เป็นเจ้าบ้านนำ 6-2


คาร์ล เจนกินสัน แบ็กขวาที่ทีมเพิ่งคว้ามาใหม่ โดนใบเหลือง-แดงในนาทีที่ 76 จากการเจตนาชน ฮาเวียร์ "ชิชาริโต้" เอร์นานเดซ ที่กำลังจะหลุดเดี่ยว นั่นทำให้ 3 เกมแรกของพรีเมียร์ลีก ซีซั่น 2011-12 ทีมปืนใหญ่มีนักเตะโดนไล่ออกทุกนัด


ซึ่งหลังจาก อาร์เซน่อล เหลือผู้เล่นแค่ 10 คน ทีมปีศาจแดงก็ยิ่งเพิ่มในช่วงท้ายเกมอีก 2 ลูกจากจุดโทษของ เวย์น รูนี่ย์ และลูกปิดท้ายสุดสวยจาก แอชลี่ย์ ยัง

______________________________


6. เกมที่ดีที่สุดของ "อาจารย์ยัง" ในชุดผีแดง


ก่อนที่จะกลายเป็นกองหลังเต็มตัวอย่างเช่นทุกวันนี้ แอชลี่ย์ ยัง เคยเป็นหนึ่งในปีกที่ฝีเท้าจัดจ้านที่สุดของอังกฤษมาก่อน นั่นทำให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทุ่มเงินถึงเกือบ 20 ล้านปอนด์ คว้าตัวมาจาก แอสตัน วิลล่า ในช่วงซัมเมอร์ 2011


และเกมที่เขาทำผลงานในการเล่นปีกซ้ายให้ทีมปีศาจแดงได้ดีที่สุด ก็คือการถล่ม อาร์เซน่อล 8-2 นี่เอง


"จารย์ยัง" ทำประตูแรกอย่างเป็นทางการในฐานะนักเตะแมนฯ ยูไนเต็ด ได้ในการเจอทีมปืนใหญ่ แถมทำได้ถึง 2 ประตูจากการยิงปั่นโค้งเสียบสามเหลี่ยมเสาไกลอย่างสุดงามทั้ง 2 ลูก


นอกจากจะซัดเบิ้ลแล้ว เขายังทำแอสซิสต์ในเกมนี้อีก 3 ลูกด้วยกัน คือการเขี่ยฟรีคิกสั้นให้ เวย์น รูนี่ย์ ซัดเข้าไป 2 ตุง และอีกลูกคือการจ่ายให้ พาร์ค ชี-ซอง ซัดประตูที่ 6

______________________________


7. นั่นคือครั้งสุดท้ายที่ "ตี๋พาร์ค" ยิงปืนใหญ่


พาร์ค ชี-ซอง ใช้เวลาเพียงแค่ 2 นาที หลังจากลงสนามในฐานะตัวสำรองแทนที่ นานี่ ในนาที 68 ในการซัดประตูที่ 6 ให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ในเกมนั้น


อดีตดาวดังทีมชาติเกาหลีใต้ มีสถิติที่ยอดเยี่ยมในการลงสนามให้ทีมปีศาจแดงพบอาร์เซน่อล เพราะสามารถยิงใส่ทีมปืนใหญ่ถึง 5 ประตู


ซึ่งทุกครั้งที่เขาทำประตูทัพ เดอะ กันเนอร์ส ได้ ต้นสังกัดจะเป็นฝ่ายมีชัยตลอดด้วย


อย่างไรก็ตาม หลังจบฤดูกาล 2011-12 พาร์ค ต้องโดนขายไปอยู่กับ ควีนส์ปาร์ค เรนเจอร์ส ถือเป็นการปิดฉากช่วงเวลา 7 ปีที่ค้าแข้งในถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด

______________________________


8. เวนเกอร์ เสริมทัพจ้าละหวั่นหลังพ่ายยับ


ความพ่ายแพ้ด้วยสกอร์มโหฬารขนาดนี้ ทำให้ อาร์แซน เวนเกอร์ รู้ดีว่า หากยังหวังพา อาร์เซน่อล ทำอันดับติดท็อปโฟร์ในฤดูกาล 2011-12 ขุมกำลังที่มีอยู่จากชุดที่โดน แมนฯ ยูไนเต็ด ยำเละ ไม่เพียงพอแน่


หลังโดนปีศาจแดงถล่ม 8-2 ทีมปืนใหญ่ปิดดีลเสริมทัพนักเตะใหม่เข้าสู่ทีมชุดใหญ่อีกถึง 5 คนก่อนตลาดปิด ประกอบด้วย พาร์ค ชู-ยอง, อันเดร ซานโตส, แพร์ แมร์เตซัคเคอร์, มิเคล อาร์เตต้า และยืมตัว ยอสซี่ เบนายูน มาจากเชลซี


และหลังจากนั้นจนจบฤดูกาล ทีมปืนใหญ่ไม่แพ้ใครด้วยสกอร์ขาดลอยอีกเลยในลีก และทำผลงานค่อยๆ ดีขึ้น จนจบซีซั่นด้วยอันดับ 3


ส่วน แมนฯ ยูไนเต็ด แม้ได้ชัยชนะที่สวยหรูขนาดนี้ แต่นั่นก็ไม่ได้ช่วยให้พวกเขาคว้าแชมป์ได้ในบั้นปลาย เมื่อโดน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เบียดเข้าป้ายในวินาทีสุดท้าย คว้าแชมป์ไปครองด้วยผลต่างประตูได้-เสีย อย่างเจ็บปวด


หลังจากจบฤดูกาล 2011-12 ดาวยิงตัวเก่งอย่าง โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ก็ตัดสินใจโยกไปค้าแข้งกับ แมนฯ ยูไนเต็ด แทน และเขาก็ช่วยให้ทีมปีศาจแดงทวงแชมป์คืนจากเรือใบสีฟ้าได้ทันที


ซึ่งจนถึงตอนนี้ ทีมปืนใหญ่ก็ยังไม่สามารถบุกชนะผีแดงในเกมพรีเมียร์ลีกที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ได้อีกเลย...


เครดิต : เสียบสามเหลี่ยม