แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

ย้อนไปหลังจบเกมพรีเมียร์ลีกนัดเปิดฤดูกาลใหม่ ที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

blog

จำนวนเข้าชม 983 ครั้ง

5 ปีที่แล้ว

ย้อนไปหลังจบเกมพรีเมียร์ลีกนัดเปิดฤดูกาลใหม่ ที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดรังกะซวกไส้ เชลซี ยับเยิน 4-0 คงมีไม่กี่คนที่จะโฟกัสถึงปัญหาที่ยังคงไม่ได้รับการแก้ไขของทีมปีศาจแดง

นั่นก็คือการขาดจินตนาการ และประสิทธิภาพในการเจาะเข้าทำใส่คู่แข่งที่ตั้งรับอย่างเหนียวแน่น

3 จาก 4 ประตูที่ได้ เริ่มมาจากการโต้กลับเร็วจากแดนตัวเอง ส่วนอีกลูกที่เป็นประตูเบิกร่อง มาจากจุดโทษที่กองหลังคู่แข่งสกัดแบบเฟอะฟะ

โชเซ่ มูรินโญ่ อดีตกุนซือที่โดนไล่ออกไปก่อนที่ โอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ จะเข้ามาคุมทีม วิเคราะห์สาเหตุที่ทำให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ได้ชัยชนะที่ขาดลอยเกินคาดว่า “เชลซี

ไม่ได้มีเกมรับที่เหนียวแน่น เปิดพื้นที่ให้เล่นมากมาย และไม่ดุดันพอที่จะเข้าหาบอล”

“ทั้งแผงหลัง, แผงมิดฟิลด์ และกองหน้าของพวกเขา ไม่มีความรัดกุม ผมคิดว่า ยูไนเต็ด จะเจอเกมที่ยากขึ้นมาก ถ้าพบกับทีมที่ตั้งรับได้เหนียวแน่น”

“ซึ่งถ้าคู่แข่งเลือกที่จะตั้งรับต่ำสุดๆ ก็จะยิ่งลำบากขึ้นไปอีก เมื่อพวกเขาไม่มีศูนย์หน้าธรรมชาติอยู่ในสนาม”

______________________________

ใช่แล้วครับ หลังจากสโมสรตัดสินใจขาย โรเมลู ลูกากู ไปให้ อินเตอร์ มิลาน ตามด้วยบริการส่ง อเล็กซิส ซานเชซ ไปให้ทีมงูใหญ่ยืมพร้อมโปรโมชั่น​ไม่ต้องจ่ายค่า

เหนื่อยเยอะ ทีมปีศาจแดงก็เหลือกองหน้าที่มีประสบการณ์ในทีมชุดใหญ่จริงๆ แค่ 2 คน

นั่นคือ มาร์คัส แรชฟอร์ด และ อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล ซึ่งความเป็น Striker ของ 2 คนนี้ก็ไม่ได้มีมากอะไร ในเมื่อหลายปีที่ผ่านมา บทบาทส่วนใหญ่คือการฉีกไปเล่นตัวริมเส้น

นับตั้งแต่เปิดฤดูกาล 2016-17 มาจนถึงตอนนี้ แรชฟอร์ด มีสถิติยิงประตูในกรอบ 6 หลาแค่ 6 ประตูในพรีเมียร์ลีก ขณะที่ มาร์กซิยาล ทำได้แค่ 3 ลูก

เมื่อเทียบกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่มีเพชฌฆาตในกรอบเขตโทษทั้ง กาเบรียล เชซุส และ เซร์คิโอ อเกวโร่

ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ที่มี แฮร์รี่ เคน

อาร์เซน่อล ที่มี ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมย็อง และ อเล็กซองดร์ ลากาแซ็ตต์ จะยิ่งรู้สึกถึงคุณภาพที่ห่างชั้น ระหว่างกองหน้าของผีแดง กับทีมใหญ่ทีมอื่นๆ

______________________________

หลังเกมน่าผิดหวังที่บุกเสมอ เซาธ์แฮมป์ตัน 1-1 นัดล่าสุด ทำให้ทีมปีศาจแดงชุดหนุ่มแน่น ทำแต้มสะดุดในการเจอทีมชื่อชั้นเป็นรอง 3 นัดติดต่อกันเข้าไปแล้ว

ทั้ง 3 นัดที่ว่า (โดน วูล์ฟแฮมป์ตัน ตีเสมอ 1-1, แพ้ คริสตัล พาเลซ คาบ้าน 1-2 และล่าสุดคือเจ๊าทีมนักบุญ) แมนฯ ยูไนเต็ด ต่างเจอปัญหาเหมือนกัน นั่นคือเจาะคู่แข่งที่เน้นเกมรับเต็มตัวไม่เข้าเลย

โอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ ให้สัมภาษณ์หลังทั้ง 3 เกมดังกล่าว โดยยืนยันว่าทีมของเขาเล่นได้สมควรเป็นผู้ชนะทุกนัด ซึ่งจริงๆ เขาก็มีเหตุผลที่จะพูดแบบนั้น

เพราะถ้าหากไม่พลาดจุดโทษ 2 นัดซ้อนๆ ในเกมกับ วูล์ฟส์ และ พาเลซ

ถ้าไม่โดนประตูที่ไม่ว่าใครก็หมดสิทธิ์เซฟจาก รูเบน เนเวส

ถ้าหาก ดาบิด เด เคอา ไม่ยืนตำแหน่งปิดมุมเสาแรกพลาด

และถ้า วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ ไม่กลายเป็นจุดอ่อนในเรื่องลูกกลางอากาศ บางทีป่านนี้ ทีมปีศาจแดง อาจจะชนะทุกนัดได้อย่างที่ โซลชาร์ ว่าไว้จริงๆ

แต่ยังไงก็ปฏิเสธไม่ได้ ว่าปัญหาที่ใหญ่ที่สุดตอนนี้ของทีม คือคุณภาพเกมรุกที่ทื่อเหลือเกิน

3 นัดหลังสุด แมนฯ ยูไนเต็ด มีโอกาสยิงทั้งหมด 52 ครั้ง แต่เข้ากรอบแค่ 13 หน คิดเป็นเปอร์เซ็นต์ยิงได้ลุ้นจริงๆ แค่ 25% เท่านั้น และนั่นทำให้พวกเขายิงประตูเพิ่มจากเกมแรกได้แค่นัดละลูก

นักเตะคนเดียวที่ฝากความหวังได้ในตอนนี้ คือปีกที่เพิ่งย้ายมาจากแชมเปี้ยนชิพอย่าง แดเนียล เจมส์ ที่ยิงไปแล้ว 3 ประตูในพรีเมียร์ลีก

ส่วนคนอื่นๆ ในแนวรุกทั้ง มาร์คัส แรชฟอร์ด, ฆวน มาต้า, อันเดรียส เปเรยร่า และ เจสซี่ ลินการ์ด อยู่ในช่วงขาดความมั่นใจในการเล่นทั้งหมด

______________________________

สำหรับการเจาะทีมที่ถอยลงไปตั้งรับต่ำ วิธีแรกคือต้องอาศัยการเติมขึ้นสูงของฟูลแบ็กทั้ง 2 ฝั่งที่เปิดบอลเข้ากลางได้ดี หรือประสานงานกับพวกตัวรุกได้ลื่นไหล แต่ตอนนี้ แมนฯ ยูไนเต็ด ขาดฟูลแบ็กแบบนั้น

ลุค ชอว์ ต้องพักจากอาการบาดเจ็บ, แอชลี่ย์ ยัง ขาดความแม่นยำในการครอส ส่วน อารอน วาน-บิสซาก้า แม้จะเล่นเกมรับได้แข็งแกร่ง แต่การเติมเกมบุกของเขาในหลายๆ นัดที่ผ่านมา แทบไม่ช่วยอะไรทีมเลย

อีกจุดที่น่าห่วงก็คือการขาดเพลย์เมกเกอร์ที่จะสร้างโอกาสการทำประตูดีๆ ให้ทีม

ฆวน มาต้า ช้าเกินไป ในจังหวะที่ทีมต้องเร่งเกมเร็ว ขณะที่ เจสซี่ ลินการ์ด ก็หวังอะไรไม่ได้ สถิติไม่สามารถยิงหรือแอสซิสต์ได้เลย ตลอด 8 เดือนที่ผ่านมา ฟ้องชัดเจนว่า ลินการ์ด ไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีพอ

ในครึ่งหลังของเกมพบ เซาธ์แฮมป์ตัน โซลชาร์พยายามแก้ปัญหาเรื่องการขาดเพลย์เมกเกอร์ดีๆ ด้วยการถอด ฆวน มาต้า ออก แล้วส่ง เนมานย่า มาติช ลงไปแทน 

เพื่อเปิดทางให้ ปอล ป็อกบา ขยับทำเกมได้สูงขึ้น

ถ้า ป็อกบา อยู่ในช่วงที่มั่นใจ เขาสามารถสร้างสิ่งมหัศจรรย์ให้ทีมได้ แต่ในสถานการณ์ที่กดดัน เขากลับกลายเป็นจุดอ่อนของทีมไปอีกคน เมื่อพยายามเล่นยากเกินไปจนเสียการครองบอล

มีช่วงหนึ่งของเกมที่ เซนต์ แมรี่ส์ สเตเดี้ยม นัดล่าสุด ป็อกบา เสียการครองบอลไปให้คู่แข่งถึง 3 ครั้งภายในเวลาเพียง 40 วินาที และเมื่อทีมปล่อยให้เจ้าบ้านตัดบอล

ได้บ่อยๆ เซาธ์แฮมป์ตัน ก็ยิ่งมั่นใจมากขึ้นไปอีก จนยันเสมอแบ่งแต้มไว้ได้ แม้จะเหลือผู้เล่นน้อยกว่า

______________________________

อีกจุดที่ไม่พูดถึงไม่ได้ ก็คือการที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ปล่อยนักเตะที่น่าจะช่วยให้ทีมได้ลุ้นลูกกลางอากาศออกไปถึง 3 คนในปีนี้ คือ มารูยาน เฟลไลนี่, โรเมลู ลูกากู รวมถึงกองหลังอย่าง คริส สมอลลิ่ง

ถ้าจำกันได้ในรอบ 2-3 ปีหลัง หากทีมไม่มีไอเดียในการเจาะเข้าทำ ทีมปีศาจแดงจะหันไปเน้นลูกบอมบ์ทันที ซึ่งหลายๆ นัดมันก็ได้ผล

ลูกากู ทำประตูในลีกให้กับ แมนฯ ยูไนเต็ด ด้วยลูกโหม่งได้ 5 ประตู, เฟลไลนี่ ทำได้ 6 ลูก, ขณะที่ สมอลลิ่ง ที่โดนปล่อยให้โรม่ายืมตัว ก็เคยโขกตุงตาข่ายมาแล้วถึง 8 ครั้ง

แต่กองหน้าที่มีอยู่อย่าง แรชฟอร์ด กับ มาร์กซิยาล โหม่งทำประตูรวมกันในพรีเมียร์ลีกได้แค่ 5 ประตู ซึ่งชัดเจนว่าพวกเขาไม่เก่งลูกโด่ง เราจึงไม่ต้องแปลกใจว่าทำไม

ตลอด 4 นัดแรกของซีซั่นนี้ ทีมปีศาจแดงใช้ประโยชน์จากลูกเซตพีซ หรือการครอสเข้าไปลุ้นไม่ได้เลย

เมื่อไม่มีลูกกลางอากาศเป็นอาวุธลับอีก ก็เท่ากับว่าเกมรุกของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ฤดูกาล 2019-20 ไม่มี “แพลนบี” เลย

นั่นหมายความว่า ถ้า “แพลนเอ” มันเจาะไม่เข้า ถึง โซลชาร์ อยากจะแก้เกมยังไง ก็ไม่อาจจะเปลี่ยนรูปแบบใหม่ๆ ในเกมรุกได้ นอกจากหวังพึ่งความมหัศจรรย์ของ

ฝีเท้ารายบุคคลเท่านั้น ซึ่งก็ไม่รู้ว่าใครจะผีเข้าตอนไหน

______________________________

น่าตลกดีนะครับ เพราะตอนที่ โซลชาร์ มาคุมใหม่ๆ 17 นัดแรก แมนฯ ยูไนเต็ด แพ้แค่นัดเดียว เก็บชัยชนะมากถึง 14 นัด โดยทุบสถิติชนะนอกบ้าน 9 นัดติดต่อกัน

รวมทุกรายการ กลายเป็นสถิติใหม่ของสโมสร

แต่พอได้สัญญาถาวรปุ๊บ จาก 14 นัดที่ โซลชาร์ คุมผีแดงในฐานะผู้จัดการทีมเต็มตัว แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะแค่ 3 นัด แพ้ไปถึง 7 เกม โดนยิงไปถึง 21 ประตู โดยเก็บคลี

นชีตแค่นัดเดียว และไม่ชนะนัดเยือนอีกเลย

ด้วยฟอร์มแบบนี้ คงปฏิเสธไม่ได้ว่า ถ้าหากมันไม่ดีขึ้น มาตรฐานมันใกล้เคียงกับการหนีตกชั้น มากกว่าลุ้นแชมป์ด้วยซ้ำ

______________________________

เครดิต : เสียบสามเหลี่ยม