ร็อบบี้ คีน,ลิเวอร์พูล

ร็อบบี้ คีน,ลิเวอร์พูล

ฤดูกาล 2008-09

blog

จำนวนเข้าชม 1086 ครั้ง

4 ปีที่แล้ว

ฤดูกาล 2008-09 เป็นหนึ่งในฤดูกาลที่ ลิเวอร์พูล ใกล้เคียงกับการคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกมากที่สุด เมื่อได้รองแชมป์ โดยตามหลัง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เพียง 4 แต้ม

หากให้ยกตัวอย่างนักเตะลิเวอร์พูลชุดนั้น ชื่อแรกๆ ที่คนนึกถึงคงหนีไม่พ้น สตีเว่น เจอร์ราร์ด, เฟร์นานโด ตอร์เรส, ฮาเวียร์ มาสเคราโน่ และ ชาบี อลอนโซ่

แต่หลายคนอาจลืมว่า หนึ่งในสมาชิกทีมหงส์แดงฤดูกาลนั้น มีชื่อของ ร็อบบี้ คีน อยู่ด้วย

_____________________________

ร็อบบี้ คีน เซ็นสัญญาย้ายจาก ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ไปอยู่กับลิเวอร์พูล ด้วยค่าตัวสูงถึง 19.1 ล้านปอนด์ ในเดือนกรกฎาคมปี 2008 และหากรวมออปชั่นต่างๆ เพิ่มเติม ราคาอาจจะสูงขึ้นไปถึง 20.3 ล้านปอนด์

นั่นคือราคาย้ายตัวที่สูงมากสำหรับเมื่อ 11 ปีที่แล้ว เพราะเงิน 20 ล้านปอนด์ คือค่าตัวของ เฟร์นานโด ตอร์เรส ที่ทีมทุ่มซื้อจาก แอตเลติโก มาดริด ได้ในปี 2007

สาเตุที่อดีตดาวยิงทีมชาติไอร์แลนด์ มีค่าตัวแพงขนาดนั้น เป็นเพราะเขาเพิ่งเป็นตัวหลักของ สเปอร์ส ชุดคว้าแชมป์รายการสุดท้ายของสโมสร คือ คาร์ลิ่ง คัพ ปี 2008

ในช่วงวัยพีคคือ 28 ปี ถ้าหากไก่เดือยทองจะขายให้ทีมร่วมลีก ยังไงก็ต้องไม่ยอมขายถูกๆ แน่

ร็อบบี้ คีน ทำสถิติยิงให้ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ มากกว่า 100 ประตู ตลอดช่วงเวลาที่ค้าแข้งในถิ่น ไวท์ ฮาร์ท เลน นาน 6 ฤดูกาล โดยไม่เคยมีซีซั่นไหนที่ยิงในพรีเมียร์ลีกได้น้อยกว่า 11 ลูก

มาร์ติน โยล อดีตผู้จัดการทีมของสเปอร์ส เผยว่า เขาไม่คิดมาก่อนเลยว่า คีนจะยอมทิ้งทีมไก่เดือยทอง ทั้งที่อะไรที่เป็นอยู่มันก็ดีอยู่แล้ว

"เขาคือสัญลักษณ์ของสเปอร์ส เขาเป็นผู้เล่นที่มีอิทธิพลมากที่สุดในห้องแต่งตัว ผมคิดจริงๆ เลยนะว่า ร็อบบี้ คีน จะอยู่ที่นั่นไปเรื่อยๆ จนกระทั่งแขวนสตั๊ด"

อย่างไรก็ตาม ด้วยอายุ 28 ปี โอกาสได้ไปร่วมทีม ลิเวอร์พูล ทีมที่เขาเชียร์ตั้งแต่ยังเด็ก มันอาจไม่เข้ามาหาอีกแล้วถ้าหากปฏิเสธไป

______________________________

เมื่อ คีน ย้ายสู่ถิ่นแอนฟิลด์ เขาได้สวมเสื้อหมายเลข 7 ซึ่งเป็นของตำนานอย่าง เคนนี่ ดัลกลิช, เควิน คีแกน และ สตีฟ แม็คมานามาน

10 นัดแรกนับรวมทุกรายการของลิเวอร์พูลในฤดูกาล 2008-09 ไม่มีเกมไหนที่ ร็อบบี้ คีน ไม่ได้ลงสนาม โดยเป็นตัวจริงถึง 8 นัด

แต่สิ่งที่มันไม่ปกติ ก็คือ 10 นัดที่ว่า ร็อบบี้ คีน ยิงไม่ได้เลย!!

ประตูแรกของ คีน กับทีมหงส์แดง มาถึงในวันที่ 1 ตุลาคม 2008 โดยยิงในเกมที่เปิดบ้านชนะ พีเอสวี ไอนด์โอเฟ่น 3-1 ในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก

และหลังกลับจากเบรกทีมชาติ เขายิงในเกมยุโรปได้อีกครั้ง เมื่อซัดขึ้นนำในเกมบุกเสมอ แอตเลติโก มาดริด 1-1 ที่ บิเซนเต้ กัลเดร่อน

อย่างไรก็ตาม ฟอร์มในรายการหลักอย่างพรีเมียร์ลีกถือว่าน่าผิดหวัง เพราะกว่าจะยิงได้ ต้องรอจนถึงเกมนัดที่ 12 ที่เปิดบ้านพบ เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน

คีนเหมาคนเดียว 2 ประตู ในเกมที่ลิเวอร์พูลถล่มเวสต์บรอมวิช 3-0 แต่ต้องไม่ลืมว่า เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน คือทีมที่อ่อนที่สุดในพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2008-09

และหลังจากเกมแรกที่เขาทำประตูในลีกให้หงส์แดง เขาต้องรออีกนานกว่า 1 เดือนเต็ม กว่าจะยิงได้อีกครั้ง ที่ทำประตูตีเสมอ อาร์เซน่อล 1-1 ในช่วงท้ายเกมที่ เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม

แม้จะสานต่อความมั่นใจได้ทันที ด้วยการเหมาคนเดียวอีก 2 ลูกในเกมวันบ็อกซิ่งเดย์ นัดเปิดบ้านชนะ โบลตัน 3-0 แต่นั่นก็คือครั้งสุดท้ายที่เขามีชื่อบนสกอร์บอร์ด ในนามของนักเตะลิเวอร์พูล

______________________________

พอเข้าช่วงปีใหม่ ราฟาเอล เบนิเตซ เริ่มรู้ซึ้งแล้วว่า ร็อบบี้ คีน ไม่สามารถทำในสิ่งที่เขาคาดหวังได้ในถิ่นแอนฟิลด์

แม้กระทั่งเกม เอฟเอ คัพ ที่พบทีมเล็กอย่าง เปรสตัน นอร์ธเอนด์ เขาก็ยังสอบไม่ผ่าน แม้จะมีเวลาอยู่ในสนามนานถึง 73 นาที

สถิติระบุว่าจากทั้งหมด 16 นัดที่ ร็อบบี้ คีน ลงตัวจริงในพรีเมียร์ลีกให้ลิเวอร์พูล มีถึง 7 นัดที่ทีมไม่ชนะ และ 4 เกมในจำนวนนั้นจบลงด้วยผลเสมอ 0-0

ราฟา เริ่มมองถึงการหาทางเอาเงินคืนจากการลงทุนที่ไม่คุ้มค่าให้ได้เร็วที่สุด ก่อนที่มันจะสาย และสุดท้ายก็ขายคืนกลับไปให้ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ในวันสุดท้ายของตลาดนักเตะมกราคม 2009

ราคาที่สเปอร์สซื้อกลับคือ 12 ล้านปอนด์ เท่ากับว่าหงส์แดงขาดทุนไป 7 ล้านปอนด์ ให้กับนักเตะที่ยิงรวมทุกรายการได้แค่ 7 ประตู

เบนิเตซ เพิ่งออกมาอธิบายเหตุผลของการรีบปล่อยตัวคีนกลับทีมเก่า ทั้งที่เอามาใช้งานได้ไม่ถึงครึ่งปีว่า

"มันชัดเจนว่าความเข้าใจกันระหว่าง ร็อบบี้ คีน และ ตอร์เรส ไม่เป็นไปตามที่เราคิด และเราจำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงอะไรสักอย่างให้เร็วที่สุด เพราะ คีน คือการเซ็นสัญญาที่ราคาสูงสำหรับเรา แล้วมันออกมาไม่เวิร์ค"

"ตอร์เรส คือกองหน้าที่เร็วกว่าเบอร์บาตอฟ ซึ่งคีนเคยเล่นด้วย และ 2 คนนั้นก็เป็นนักเตะที่ต่างสไตล์กัน"

"เราจำเป็นต้องทำอะไรสักอย่างโดยเร็ว เมื่อมันไม่ดีพอสำหรับทีมเลยในท้ายที่สุด"

ตำแหน่งของ คีน กับลิเวอร์พูล เหมือนกับตอนอยู่ที่ สเปอร์ส คือเป็นหนึ่งใน 2 กองหน้าในระบบ 4-4-2

แต่น่าเสียดายที่ เฟร์นานโด ตอร์เรส มีอาการบาดเจ็บรบกวน จนพลาดลงเล่นในครึ่งฤดูกาลแรกไปถึง 10 นัดในลีก คีน จึงมีโอกาสจับคู่กับดาวยิงชาวสเปนน้อยเกินไป และหลายครั้งต้องเล่นร่วมกับ เดิร์ค เค้าท์ แทน

แต่ถึงอย่างนั้น ช่วงเวลาที่ คีน-ตอร์เรส ได้ลงตัวจริงพร้อมกัน ก็เล่นกันไม่เข้าขาสักเท่าไรอยู่ดี

คีน เป็นนักเตะรูปร่างเล็ก เขาสูงแค่ 175 เซนติเมตร จึงไม่เหมาะที่จะเล่นในระบบกองหน้าตัวเป้าแค่คนเดียว

______________________________

หลังจาก เบนิเตซ ขายคีนออกไป เขาปรับระบบการเล่นใหม่ให้ ลิเวอร์พูล ใช้แผน 4-2-3-1

เฟร์นานโด ตอร์เรส ที่ฟิตสมบูรณ์กลับมาแล้ว กลายเป็นหัวหอกตัวเดียว โดยดัน สตีเว่น เจอร์ราร์ด ขึ้นมาเน้นเกมรุกมากขึ้นในบทบาทจอมทัพ ปล่อยให้ ฮาเวียร์ มาสเคราโน่ กับ ชาบี อลอนโซ่ คุมแดนกลาง

ขณะที่ เดิร์ค เค้าท์ รับหน้าที่ปีกขวา ส่วนทางซ้ายเป็น อัลเบิร์ต ริเอร่า โดยมี ยอสซี่ เบนายูน คอยสลับลงมาเล่นในบางนัด

ระบบการเล่นใหม่ที่ลงตัว ทำให้ลิเวอร์พูลกวาดไปถึง 38 แต้ม จากคะแนนเต็ม 45 แต้มของ 15 นัดสุดท้ายในพรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2008-09

แต่น่าเสียดายที่สุดท้ายก็ยังไม่สามารถเบียด แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ให้ตกจากบัลลังก์แชมป์ได้ เพราะมีแต้มน้อยกว่าทีมปีศาจแดง 4 คะแนน

ซึ่งทำให้อดคิดไม่ได้ว่า ถ้าหากไม่ทำแต้มหล่นกระจุยกระจาย จากการพลาดเสมอหลายนัดช่วงที่ยังมี ร็อบบี้ คีน อยู่ในทีม ป่านนี้ ลิเวอร์พูล อาจจะมีถ้วยแชมป์พรีเมียร์ลีกไปตั้งโชว์ที่สโมสรแล้วก็ได้

นั่นแหละครับ เพราะเหตุนี้ ร็อบบี้ คีน ถึงเป็นนักเตะที่แฟนบอลส่วนใหญ่ของลิเวอร์พูลลืม หรือไม่ก็ "อยากจะลืม"

เครดิต : เสียบสามเหลี่ยม