เซร์คิโอ อเกวโร่ คือนักเตะเพียงคนเดียวของพรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2019-20 ที่ยิงได้ทุกนัดใน 4 นัดแรก
จำนวนเข้าชม 1191 ครั้ง
5 ปีที่แล้ว
เซร์คิโอ อเกวโร่ คือนักเตะเพียงคนเดียวของพรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2019-20 ที่ยิงได้ทุกนัดใน 4 นัดแรก
เขาซัดไปแล้วถึง 6 ประตูในเดือนสิงหาคม ขึ้นนำดาวซัลโวเดี่ยวๆ ก่อนเบรกทีมชาติ
หากไปย้อนดูจำนวนประตูในรอบ 5 ฤดูกาลที่ผ่านมา ก็มีแค่เพียง อเกวโร่ คนเดียวเท่านั้น ที่ยิงในพรีเมียร์ลีกไม่ต่ำกว่าฤดูกาลละ 20 ลูก
ในช่วงเวลาเดียวกัน นักเตะอย่าง แฮร์รี่ เคน, โรเมลู ลูกากู, อเล็กซิส ซานเชซ ยังไม่สามารถรักษามาตรฐานระดับนั้นได้
จริงๆ ในรายของ เคน เขาเกือบจะทำได้อีกคน ถ้าหากไม่เจอปัญหาบาดเจ็บเล่นงานในฤดูกาล 2018-19 จนซัดได้แค่ 17 ประตูเสียก่อน
หรือแม้แต่ตำนานในอดีตอย่าง อลัน เชียเรอร์, เธียร์รี่ อองรี, ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา หรือ รุด ฟาน นิสเตลรอย ก็ไม่เคยยิงถึงหลัก 20 ประตูได้นานถึง 5 ปีซ้อนๆ มาก่อน
ซึ่งถ้าหากในฤดูกาล 2013-14 "เอล กุน" ไม่มีปัญหาบาดเจ็บที่กล้ามเนื้อหลังหัวเข่า เขาคงทำสถิตินี้ได้ 6 ฤดูกาลติดต่อกันไปแล้ว
ส่วนซีซั่นที่กำลังแข่งขันกันอยู่นี้ ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด เช่นเจ็บหนัก, โดนแบนยาว หรือโดนจับนั่งสำรองหลายนัด เขาก็จะยิงเกิน 20 ลูกได้อีกนั่นแหละ
บางคนพูดว่า เซร์คิโอ อเกวโร่ คือกองหน้าที่อาจจะดีที่สุดในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีกเลยก็เป็นได้ ซึ่งเอาเข้าจริง นั่นก็ไม่น่าจะใช่การอวยเกินไป
______________________________
อเกวโร่ ย้ายจาก แอตเลติโก มาดริด สู่ถิ่น เอติฮัด สเตเดี้ยม เมื่อปี 2011 ด้วยค่าตัว 38 ล้านปอนด์
เขาใช้เวลาเพียงแค่ 6 ปีเศษๆ ในการก้าวขึ้นเป็นดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลของสโมสร ทุบสถิติที่ เอริค บรู๊ค ยึดครองมานานถึง 77 ปีลงอย่างสวยงาม
เอริค บรู๊ค ยิงให้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทั้งหมด 177 ประตู แต่ว่า อเกวโร่ สามารถยิงประตูที่ 178 ในนามนักเตะเรือใบสีฟ้า ได้ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2017 จากการยิงใส่ นาโปลี ในเกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม เมื่อเดือนตุลาคม 2017
ปัจจุบันเขาทำประตูให้ แมนฯ ซิตี้ รวมทุกรายการไปแล้ว 237 ประตู หนึ่งในนั้นคือประตูชัยในนาทีสุดท้ายของพรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2011-12 ที่พาทีมเป็นแชมป์แบบน่าตื่นเต้นที่สุดในประวัติศาสตร์
ด้วยวัย 31 ปี เหลือสัญญากับทีมจนถึงปี 2021 และยังดูสภาพร่างกายฟิตเปรี๊ยะ บางทีเขาอาจยิงให้ทีมเรือใบสีฟ้าได้มากกว่า 300 ประตู
______________________________
ปัจจุบัน เซร์คิโอ อเกวโร่ รั้งอันดับที่ 6 ของชาร์ทดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลของพรีเมียร์ลีก ด้วยผลงานกดประตูในลีกสูงสุดอังกฤษไปแล้ว 170 ลูก
คนที่ยิงได้มากกว่าเขาทุกคนล้วนไม่ได้เล่นในพรีเมียร์ลีกอีกแล้ว ไม่ว่าจะเป็น
อันดับ 1 : อลัน เชียเรอร์ (260 ประตู)
อันดับ 2 : เวย์น รูนี่ย์ (208 ประตู)
อันดับ 3 : แอนดี้ โคล (187 ประตู)
อันดับ 4 : แฟร้งค์ แลมพาร์ด (177 ประตู)
อันดับ 5 : เธียร์รี่ อองรี (175 ประตู)
ด้วยมาตรฐานที่ อเกวโร่ สร้างไว้ แลมพาร์ด และ อองรี กำลังจะโดนเขาแซงแน่ๆ ในฤดูกาลนี้ ถ้าดาวยิงอาร์เจนไตน์ ไม่เจ็บหนักไปเสียก่อน
ปัจจุบัน เจ้าของเสื้อเบอร์ 10 ทีมเรือใบสีฟ้า ครองสถิติมีค่าเฉลี่ยประตูต่อ 1 นัดสูงที่สุดของพรีเมียร์ลีก (นัดละ 0.70 ประตู) เหนือกว่า อองรี ที่มาเป็นอันดับ 2 ที่นัดละ 0.68 ประตู
อองรี ถูกยกย่องให้เป็นกองหน้าชาวต่างชาติที่เก่งที่สุดตลอดกาลของลีกอังกฤษ แต่เขากำลังจะโดน อเกวโร่ ล้มสถิติทุกอย่าง ทั้งจำนวนแชมป์ และจำนวนประตูที่ทำได้
ถ้าหากเขาไม่เคยติดโทษแบนยาว 4 นัดในฤดูกาล 2016-17 จากการเจตนาไปเตะใส่ ดาวิด ลุยซ์ หรือเคยเจ็บหนักระหว่างกลางซีซั่น 2013-14 หรือท้ายฤดูกาล 2017-18 บางทีสถิติของ อองรี คงถูกทำลายลงไปนานแล้ว
______________________________
อันที่จริงก่อนย้ายมาเล่นในอังกฤษ อเกวโร่ ก็เคยฝากผลงานสุดยอดในยุโรปมาแล้ว จากผลงานยิงรวมทุกรายการไป 101 ประตู จากช่วงเวลา 5 ฤดูกาลที่เล่นให้กับ แอตเลติโก มาดริด
จึงน่าคิดเหลือเกินว่า ถ้าหากทีมเรือใบสีฟ้าได้มหาเศรษฐีจากอาบูดาบีมาเทกโอเวอร์ให้เร็วกว่านี้ หรือไม่ก็สามารถคว้าตัว อเกวโร่ มาได้ตั้งแต่สมัยยังเป็นดาวรุ่ง ป่านนี้ เขาอาจยิงประตูในพรีเมียร์ลีกเป็นรองแค่ อลัน เชียเรอร์ คนเดียวก็ได้
______________________________
นอกจากสถิติการทำประตู ที่ อเกวโร่ พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า ถ้ามีจำนวนนัดให้ลงสนามเท่ากัน เขาจะเป็นคนที่ยิงได้เยอะที่สุด ต้องบอกว่า ในด้านความสำเร็จกับทีม เขาก็ไม่เป็นรองตำนานดาวยิงของพรีเมียร์ลีกเช่นกัน
อเกวโร่ คว้าแชมป์ลีกสูงสุดกับ แมนฯ ซิตี้ มาแล้วถึง 4 ครั้ง จากทั้งหมด 8 ฤดูกาลที่แข่งจบไป
เคยเป็นดาวซัลโว 1 สมัย และติดทีมยอดเยี่ยมของฤดูกาลตลอด 2 ซีซั่นหลังสุด
ไม่มีแชมป์รายการใดในอังกฤษ ที่เขาไม่เคยได้ ตอนนี้ขาดเพียงแค่ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เท่านั้น ที่จะเติมเต็มให้เขาประสบความสำเร็จกับทีมเรือใบสีฟ้าอย่างสมบูรณ์แบบ
ถ้าจะบอกว่า เซร์คิโอ อเกวโร่ คู่ควรกับการเป็น "กองหน้าที่ดีที่สุด เท่าที่พรีเมียร์ลีกเคยมีมา" คุณคิดว่าเหมาะสมแล้วหรือยัง?
เครดิต : เสียบสามเหลี่ยม