ฟูร่ายยาว ผีควรให้เวลาพ่อมูทำทีม

ฟูร่ายยาว ผีควรให้เวลาพ่อมูทำทีม

ฟูร่ายยาว ผีควรให้เวลาพ่อมูทำทีม

blog

จำนวนเข้าชม 1132 ครั้ง

5 ปีที่แล้ว

ผีควรให้เวลาพ่อมูทำทีม - ย้ายไปจีนเพราะไม่อยู่ในแผนโอเล่

มารูยาน เฟลไลนี่ให้สัมภาษณ์กับ Telegraph ถึงสโมสรเก่าของเขา และรวมถึงโชเซ่ มูรินโญ่ และโอเล่ กุนนาร์ โซลชา

"พวกเขาเซ็นสัญญากับหนึ่งในผู้จัดการทีมที่ดีที่สุดในโลกอย่างโชเซ่ มูรินโญ่ เขาอยากจะสร้างทีม และพวกเขาก็ไล่เขาออก" เฟลไลนี่ กล่าว

"มันไม่ใช่เรื่องง่ายนะสำหรับการสร้างทีมในช่วงเวลาแค่นั้น คุณจำเป็นจะต้องใช้เวลานานกว่า 2 ปี"

"ผมไม่รู้นะว่ากับโซลชา พวกเขาจะทำยังไง แต่สำหรับผมแล้ว กับการที่จะคว้าชัยชนะ คุณจำเป็นจะต้องพัฒนา ปรับปรุง และคุณต้องการเวลา มูรินโญ่สำหรับฤดูกาลแรกแล้ว เขาทำได้อย่างน่าอัศจรรย์ เขาพาทีมคว้าแชมป์ได้"

"โอเค ในฤดูกาลที่สองมันอาจจะเป็นเรื่องที่ยากขึ้นนิดหน่อย แต่เขาก็พยายามแล้ว คุณก็รู้ เขาพยายามเต็มที่ๆสุดเพื่อช่วยทีม จากนั้นเขาก็โดนไล่ออก"

เฟลไลนี่คือส่วนสำคัญของทีมโชเซ่ มูรินโญ่ที่พาทีมคว้าแชมป์ยูโรป้าลีก , ลีกคัพ และรวมถึงเขายังเคยคว้าแชมป์เอฟเอคัพภายใต้การคุมทีมของหลุยส์ ฟานกัลอีกด้วย ตลอดช่วงเวลา 5 ปีครึ่งของเขากับทีม

ถามว่าสโมสรไล่มูรินโญ่ออกเร็วเกินไปหรือเปล่า ? : "สำหรับผมแล้ว ใช่มันเร็วเกินไป เพราะการที่ผู้จัดการทีมอย่างเขาเข้ามาในทีม เขาต้องการตัวผู้เล่นหลายคน เพื่อนำปรัชญาของเขาเข้าสู่ทีม เขาอยากจะสร้างทีมของเขา และหลังจากนั้น 2 ปีครึ่ง พวกเขากลับตัดสินใจไล่เขาออก เพราะพวกเขาไม่ได้ผลการแข่งขันที่ต้องการ"

"พวกเขาเซ็นสัญญากับมอยส์ พวกเขาก็ไม่ได้ให้เวลากับเขา พวกเขาเซ็นสัญญากับฟานกัล พวกเขาให้เวลา 2 ปี และเราก็เริ่มคว้าแชมป์บอลถ้วยได้ จากนั้นเขาก็โดนปลด เพราะพวกเขาอยากได้ชัยชนะในรวดเร็วกว่านั้น ผมคิดว่าผู้จัดการทีมอย่างฟานกัล มีแท็กติคที่แข็งแกร่งมากๆ และเขามีประสบการณ์มากมาย และเขาก็โดนไล่ออก"

"คุณอยากสร้างทีมคุณต้องใช้เวลา ไม่ใช่เปลี่ยนผู้จัดการทีมทุกๆ 2 ปี หรือทุกๆปี ถ้าผู้จัดการทีมทำได้ไม่ดี 4 หรือ 5 เกม พวกเขาเริ่มอยากจะปลดผู้จัดการทีมคนนั้นออกแล้ว"

"แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดประสบความสำเร็จทุกอย่างตลอดหลายปีของเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ดังนั้นสำหรับคนอื่นที่จะเข้ามาในสิ่งที่เขาทำได้นั้นมันไม่ใช่เรื่องง่าย กองเชียร์ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดต้องการแบบนั้น แต่ฟุตบอลมันเปลี่ยนไปแล้ว ความคิดของผู้เล่นก็เปลี่ยนไปแล้ว"

เฟลไลนี่ยอมรับว่า เขารู้สึกหงุดหงิดกับผู้เล่นบางคนของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดที่ติดโซเชียลมีเดียมากเกินไป และเชื่อว่ายูไนเต็ดคงคว้าน้ำเหลวแน่ๆ หากโซลชายังยึดติดกับผู้เล่นเยาวชน

"คุณคงเห็นผู้เล่นบางคน หลังจบเกมเขาเดินตรงดิ่งไปที่ห้องแต่งตัว เพื่อโพสโซเชียลมีเดย มันเป็นเรื่องที่ผิดนะ" เฟลไลนี่ กล่าว

"ตอนนี้ผู้จัดการทีมของทีม ต้องการผู้เล่นดาวรุ่งเข้าสู่ทีม ซึ่งพวกเขาก็มีช่วงที่ขึ้นๆและลงๆ นั่นคือฟุตบอล และมันก็เกิดขึ้นกับผู้เล่นดาวรุ่งอยู่เสมอ"

"แน่นอนว่าคุณคงไม่สามารถลงเล่นด้วยเพียงแค่ผู้เล่นดาวรุ่ง คุณจำเป็นจะต้องผสมกับผู้เล่นระดับอื่น เพื่อชนะในเกม เพื่อคว้าแชมป์ การที่จะคว้าชัยชนะในเกมใหญ่ๆคุณจำเป็นจะต้องมีผู้เล่นที่มีประสบการณ์ แน่นอนคุณสามารถชนะด้วยผู้เล่นดาวรุ่งได้ แต่มันไม่ใช่ทุกเกม"

ทั้งนี้เฟลไลนี่ยืนยันว่าเขาไม่เสียใจที่ย้ายออกจากทีมไป พร้อมกับเปิดเผยว่าโซลชาไม่เคยเข้ามาพูดคุยหรือตัดสินอะไรกับเขา แต่กลับเลือกที่จะมองข้ามเขาไป ทำให้เขาเลือกที่จะย้ายไปจีน

"เมื่อคุณเปลี่ยนผู้จัดการทีม ผู้เล่นก็อยากจะสร้างความประทับใจให้กับผู้จัดการทีมคนใหม่ ดังนั้นพวกเขาจึงพยายามทุ่มเททุกอย่างในช่วงเริ่มต้น" เฟลไลนี่ กล่าว

"ทุกอย่างมันออกมาดีทั้งหมด ผู้เล่นบางคนได้รับโอกาสลงเล่น และโซลชาเขาก็ตัดสินใจที่จะเลือกใช้ผู้เล่นที่เขาอยากใช้ และเขาก็แสดงให้เห็นแล้วว่าผมไม่ได้อยู่ในผู้เล่นเหล่านั้น"

"สำหรับผู้เล่นคนอื่นๆ ก็มีปฏิกิริยาตอบรับที่ดี เขาเข้ามาเป็นผู้จัดการทีมคนใหม่ หลายๆคนก็อยากจะแสดงให้เห็นถึงสิ่งที่ตัวเองทำได้ให้เขาเห็น การใช้ผู้เล่นดาวรุ่งในบางช่วงเวลามันก็เป็นสิ่งที่ดี แต่จากนั้นละ นี่คือฟุตบอลนะ เขาจำเป็นจะต้องทำอะไรหลายๆอย่าง และสร้างทีมของเขาขึ้นมา"

"ผู้เล่นที่ย้ายออกจากทีม เป็นผู้เล่นที่มีประสบการณ์ทั้งนั้น ดังนั้นโค้ชคือคนตัดสินใจเองว่าเขาไม่ต้องการผู้เล่นเหล่านี้ นั่นคือการเลือกของโค้ช เขาเลือกที่จะไม่ต้องการใช้ซานเชส และลูกากู นั่นคือปัญหาของเขา เขามีผู้เล่นของตัวเองแล้วในตอนนี้ ดังนั้นเขาจะต้องรับมือกับมันให้ได้"

"เขา (โซลชา) ไม่เคยเข้ามาคุยกับผมเลย ไม่ว่าผมจะได้ลงเล่นหรือไม่ได้ลงเล่น ผมพึ่งเซ็นสัญญาใหม่กับทีมไป 2 ปี กับ 1 ในผู้จัดการทีมที่ดีที่สุดในโลก ที่ต้องการให้ผมอยู่กับทีมต่อ แต่จากนั้น ผู้จัดการทีมคนใหม่ก็เข้ามา และผมก็ไม่ได้อยู่ในแผนของเขา แน่นอนว่ามันถึงเวลาที่ดีแล้วที่ผมจะต้องย้ายออกจากทีมไป และผมก็ไม่เคยเสียใจเลย"