แดงเดือด,ลิเวอร์พูล,แมนฯ ยูไนเต็ด

แดงเดือด,ลิเวอร์พูล,แมนฯ ยูไนเต็ด

แดงเดือดที่ต้องเตรียมใจ

blog

จำนวนเข้าชม 1389 ครั้ง

4 ปีที่แล้ว

แดงเดือดที่ต้องเตรียมใจ

กลับมาอีกครั้งสำหรับแดงเดือดในปีนี้ เป็นช่วงที่ยูไนเต็ดกำลังแย่และลิเวอร์พูลกำลังยอดเยี่ยม แต่ทุกครั้งที่เจอกันไม่ว่าใครอยู่ฟอร์มที่ดีแค่ไหน ก็ไม่เคยวัดความดุเดือดได้เลย ซึ่งเกมส์นี้จะเป็นเกมส์ที่มีความหมายของทั้งสองทีม

ยูไนเต็ดต้องการชัยชนะเผื่อเปลี่ยนกระแสของทีมที่กำลังย่ำแย่ให้กลับมาทีมกลุ่มนำอีกครั้ง ส่วนลิเวอร์พูลเองก็ต้องการแต้มเพื่อทิ้งห่างแมนฯซิตี้ต่อไป

คำถามคือยูไนเต็ดจะทำได้ดีแค่ไหนในเกมส์นี้ ด้วยตัวผู้เล่นพิการบาดเจ็บอย่างเยอะ แน่นอนว่ายูไนเต็ดไม่เต็มร้อยแน่ๆ แต่ทว่าฟุตบอลลูกกลมๆ อะไรก็เกิดขึ้นได้ ส่วนฝั่งลิเวอร์พูลเองนั้นก็มีปัญหาเช่นกัน แต่ก็ไม่ได้มากเท่ายูไนเต็ด แต่สิ่งที่เรียกว่าความต่างคือผลงานตั้งแต่เปิดฤดูกาลมา ซึ่งห่างเหมือนฟ้ากับเหวกันเลยทีเดียว

ยูไนเต็ดขาดทั้ง เดเกอา และ ป็อกบา ที่เป็นกำลังหลักของทีม โซลชาเองก็ยืนยันว่าไม่สามารถลงเล่นได้แน่นอน ส่วนบิซซาก้าและมาร์กซิอัลก็ต้องประเมิณก่อนลงสนามอีกครั้ง ส่วนลุค ชอว์แม้ว่าจะมีชื่อกลับมาซ้อมแล้ว ก็ยังไม่พร้อมสำหรับเกมส์นี้

เกมส์นี้โอเล่คงใช้แผนเดิมอย่างแน่นอน ผมมั่นใจได้เลย จะเริ่มต้นแผนด้วย 4-5-1 และมีแม็คโทมิเนย์เป็นแกนกลางของทีม คำถามคือใครจะคู่น้องแม็ค จะมาติชหรือเฟร็ดก็ต้องติดตาม และคิดว่าผลงานจะไม่ดีไม่เท่าไร ส่วนตำแหน่งหมายเลข 10 ต้องบอกได้เลยว่าคงเป็นมาต้าเช่นเดิม เพราะแทบไม่มีนักเตะเหลือแล้ว ลินการ์ดเองก็ได้รับบาดเจ็บ ส่วนริมเส้นต้องวัดใจโอเล่ ว่าจะเลือกใคร ระหว่างกรีนวู้ดและเปเรร่า ส่วนเจมส์เป็นตัวจริงอย่างแน่นอนหลังจากจากตัวไม่ได้รับบาดเจ็บจากเกมส์ที่ชาติมา

แต่สิ่งที่เป็นปัญหาในเกมส์นี้ผมคือเกมส์รับ แม็คไกวร์พร้อมลงสนาม แต่ลินเดอเลิฟได้รับบาดเจ็บมีเพียงแค่ตวนเซมเบ้ที่จะสามารถทดแทนได้ ส่วนบิซซาก้าอย่างที่บอกยังไม่พร้อมแน่ๆ และคาดว่าโอเล่อาจจะโยกยังไปอยู่ฝั่งขวาและเอาโรโฮอยู่ฝั่งซ้ายแทน ส่วนประเด็นในแดนหน้าผมไม่ได้คาดหวังอะไร แค่ให้แรชฟอร์ดเล่นตามเกมส์ของตัวเองและผีเข้าก็พอ

พอมาแยกปัญหาจะพบได้ดังนี้ คือกองหลังที่พร้อมมีแค่แม็คไกวร์ตัวเดียวที่เป็นตัวหลัก และอีก 3 ตำแหน่งอาจจะต้องหมุนเวียน ต่อมาแดนกลางที่มีแม็คโทมิเนย์เป็นแกน ส่วนคนอื่นผมไม่แน่ใจว่าจะแบกทีมได้ดีหรือไม่ เพราะยังไงเกมส์แบบนี้ยูไนเต็ดก็ต้องการป็อกบา ส่วนเกมส์รุกภาวนาให้แรซฟอร์ดคืนฟอร์ม เห็นได้ชัดเลยว่าปัญหาของยูไนเต็ดมีทุกตำแหน่งยกเว้นผู้รักษาประตูที่ทดแทนกันได้ระหว่างโรเมโร่และเดเกอา

กลับมาดูลิเวอร์บ้าง ทีมจะได้อลิซอนกลับมาหลังจากหายจากอาการบาดเจ็บ ส่วนแนวรับก็คาดว่าจะได้มาติปกลับมาเติมแกร่งหลังได้รับรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมประจำเดือนกันยายนที่ผ่านมา ส่วนแบ็คทั้งสองยังคงเดิมทั้งอาโนลด์และโรเบอร์สันอันตรายทั้งคู่ ส่วนแดนกลางไม่มีใครได้รับบาดเจ็บถือว่าพร้อม มีทั้งโรบินโย่ เฮนเดอร์สันและไวล์นาดุมคุมทัพ ส่วนแดนหน้าอาจจะแค่เช็คความพร้อมของซาล่าห์คนเดียวนอกนั้นพร้อมลงสนาม คำถามคือซาล่าห์จะโชว์ฟอร์มออกไหมในเกมส์นี้หลังจาก 2 นัดที่ผ่านในโอลด์แทร็ฟฟอร์ด เจ้าตัวแทบจะโชว์ฟอร์มได้ไม่ดีเท่าไร ดังนั้นต้องรอดูในเกมส์นี้

ลิเวอร์พูลเต็มสูบมากกว่ายูไนเต็ดความตั้งใจของทีมคือแชมป์ลีคในปีนี้ และหากชนะนัดนี้ความมั่นใจก็เพิ่มมากขึ้นและยังรักษาช่องว่างของคะแนนกับแมนฯซิตี้ได้ แต่หากพวกเขาทำไม่สำเร็จจริงอยู่ที่ช่องว่างคะแนนยังอยู่แต่ความมั่นใจจะมีปัญหาทันที เพราะทีมที่หยุดเขาคือยูไนเต็ดนั้นเอง

ยูไนเต็ดเองก็หวังเกมส์นี้จะเปลี่ยนกระแสของทีมหลังโอเล่พาทีมโชว์ฟอร์มได้ห่วยแตกมากมาย ซึ่งตั้งเป้าหมายว่าต้องชนะ ขนาดโอเล่ยังให้สัมภาษณ์ก่อนเกมส์ว่า "นี่ถือเป็นเกมส์ที่เฟอร์เฟคที่เจอกันเวลานี้" เพราะหากไม่เปลี่ยนกระแสในเกมส์นี้ก็ไม่แน่ใจว่าโอเล่จะอยู่ยาวไหมตามที่บอร์ดให้ความไว้ใจมา

ดังนั้นผมคิดว่าทางลิเวอร์พูลไม่ประมาทเกมส์นี้อย่างแน่นอน และต้องรัดกุม ส่วนยูไนเต็ดจะถือเป็นฝ่ายบุก ส่วนจะบุกเข้าไม่เข้านั้นต้องรอดูเกมส์คืนนี้

ส่วนแฟนผียังไงก็ต้องทำใจไว้ก่อน สภาพทีมแบบนี้ชนะได้ถือว่าเก่งมากๆ ไม่ต้องกังวลว่าผลจะออกมาแบบไหน แค่เต็มที่ก็พอ อย่างน้อยเกมส์นี้เราอาจจะได้เห็นเซอร์โซลชาก็เป็นได้

หวังว่าแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดจะเป็นผู้ชนะในเกมส์นี้....