ต็อตติแฉ เป็น ผอ. แค่ชื่อ ไม่เคยได้รับความร่วมมือแม้แต่น้อย

ต็อตติแฉ เป็น ผอ. แค่ชื่อ ไม่เคยได้รับความร่วมมือแม้แต่น้อย

ต็อตติแฉ เป็น ผอ. แค่ชื่อ ไม่เคยได้รับความร่วมมือแม้แต่น้อย

blog

จำนวนเข้าชม 2666 ครั้ง

5 ปีที่แล้ว

ต็อตติแฉ เป็น ผอ. แค่ชื่อ ไม่เคยได้รับความร่วมมือแม้แต่น้อย

ฟรานเชสโก้ ต็อตติ พึ่งประกาศอำลาตำแหน่งผู้อำนวยการของสโมสรโรม่า ด้วยตัวเขาเอง หลังจากที่เข้ามารับตำแหน่งนี้ 2 ปี ทำให้เขาปิดฉากตำนานที่อยู่ร่วมกับสโมสรมากว่า 30 ปีลง

อดีตกัปตันของโรม่าในวัย 42 ปี กล่าวว่าสิ่งที่เขาได้คิดนั้น มุมมองต่างๆ ไม่เคยได้รับการพิจารณาเลยแม้แต่นอน นั้นคือเหตุผลที่ทำให้เขาเลือกลาออกจากตำแหน่ง หลังจากที่เขาพึ่งรีไทร์จากการเล่นฟุตบอลกับทีมเมื่อ 2 ปีก่อน

“ผมขอลาออกจากตำแหน่งผู้อำนวยการของโรม่า” ต็อตติ กล่าว

“ผมไม่เคยมีโอกาสที่จะได้แสดงความเห็นของผมด้วยซ้ำ ผมไม่เคยได้มีส่วนร่วมกับเรื่องเทคนิค โครงการต่างๆเลยแม้แต่น้อย” ต็อตติกล่าว

“ผมเข้าใจว่าในปีแรกอาจจะเป็นแบบนั้นได้ แต่ในปีที่สอง ผมเข้าใจว่าผมต้องทำอะไรบ้าง และผมก็ไม่ได้รับความร่วมมือ ไม่มีการช่วยเหลืออะไรเลย“

“นี่มันแย่กว่าตอนที่ผมรีไทร์จากการเป็นผู้เล่นซะอีก การที่ต้องย้ายออกจากโรม่า มันทำให้ผมเหมือนกำลังจะตาย แต่ผมรู้สึกว่ามันคงดีกว่าถ้าผมตายไปเลย”

“สโมสรแห่งนี้คือสโมสรที่ควรจะได้รับความรักและการสนับสนุน ไม่ควรเป็นสโมสรที่กองเชียร์แบ่งเป็นฝ่ายต่างๆ ควรจะมีเพียงแค่แฟนๆของโรม่าเท่านั้น”

“อย่างที่ผมพูดไป ประธานมาแล้วก็ไป ผู้จัดการทีมมาแล้วก็ไป ผู้เล่นมาแล้วก็จากไป แต่ธงของสโมสรยังคงเดิม”

“พวกเขารู้ว่าผมมีความตั้งใจอย่างไร และสิ่งที่ผมต้องการทำนั้นก็เพื่อมอบสิ่งดีๆ ให้กับสโมสรและทีมนี้ แต่พวกเขาไม่เคยต้องการให้ผมทำแบบนั้นเลย พวกเขาพยายามผลักผมออกจากการตัดสินใจทุกครั้ง ตอนนี้ผมคิดว่าผมคงต้องเลือกเส้นทางอื่นแล้ว”

“โรม่าคือบ้านหลังที่สองของผม และบางทีมันอาจจะเป็นบ้านหลังแรกด้วยซ้ำ เพราะผมใช้เวลาอยู่ในสนามซ้อมมากกว่าบ้านซะอีก”

ต็อตติได้กล่าวทิ้งท้ายว่า ทางเดินที่เขาจะกลับมายังสโมสรอีกครั้งก็คือการที่สโมสรนั้น มีการเปลี่ยนแปลงเจ้าของทีมใหม่

“ถ้าผมเป็นประธานสโมสรของโรม่า แล้วผมมีผู้เล่นที่เป็นไอค่อนของทีมอย่าง ต็อตติ และ เดรอสซี่นะ ผมคงให้พวกเขาได้รับตำแหน่งที่มีความรับผิดชอบในทุกๆอย่าง” ต็อตติกล่าว

“ปัลล็อตต้า (เจ้าของสโมสร) ดูเหมือนเขาจะฟังแต่คนรอบตัวของเขา ซึ่งเป็นสิ่งที่ผิด และเขาก็ฟังแต่ผู้คนเหล่านั้น ทุกคนทำแต่เรื่องผิดพลาด แต่ถ้าคุณทำเรื่องผิดพลาดในแบบเดียวกันมา 8 ปี คุณก็คงต้องถามตัวเองบ้างว่า มันชัดเจนว่าคุณก็มีส่วนผิดด้วย”